18 December 2005

อิตาลีตอนที่ 7 Shiena


Day11 29/08/05

วันนี้ตื่นเช้ามาอากาศดี อุณหภูมิประมาณ 26 องศา วันนี้เราจะไปเที่ยว Siena กัน เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดของอิตาลี่ (อันนี้ตามความเห็นของคนดัชต์เค้านะ)


ทางเข้าตัวเมือง


เข้าประตูเมืองมา ก็เดิมาตามทางลาดชันทีจะนำไปสู่ Piazza del Campo ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของเมือง เป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวและชาวเมืองมานั่งเล่นกัน อีกทั้งตรงกลางลานนั้นใช้เป็นที่แข่งขันม้าแข่งที่มีชื่อเสียงที่เรียกว่า Palio ซึ่งจะจัดปีละสองครั้ง ทุกวันที่ 2 กรกฎาคมและ 16 สิงหาคมของทุกปี




Piazza del Campo ที่จัดการแข่งขัน Palio






ทีเห็นด้านหน้ามีหอสูงนั้นคือพิพิธภัณฑ์ Museo Civico


เราไม่ได้เข้าไปข้างในพิพิธภัณฑ์ เพราะรอคิวยาวมากเลย เสียค่าผ่านประตูคนละ 10 ยูโร แล้วก็ห้ามถ่ายรูปด้วย เลยไม่เข้าไปดีกว่า ทั้งๆที่จริงๆก็อยากเข้าไปนะ เพราะสามารถขึ้นไปเดินด้านบนสุดได้ อยากได้วิวอ่ะ แต่ไม่เข้าก็ไม่เข้าวะ

จากนั้นเดินไป Dom of Duomo เป็นโบสถ์ gotische เริ่มสร้างในศตวรรษที่ 12 แต่มาเสร็จเอาอีก 200 ปีต่อมา อันนี้ก็ไม่ได้เข้าไปอีก คิวยาวมากๆๆเลย ทั้งที่เสียงค่าเข้าชมด้วย ลำพังเราคนเดียวน่ะ รอได้ แต่มีลูกเล็กพ่วงไปด้วย เลยอดไปตามระเบียบ เซ็งเมหือนกัน เหมือนไปแล้วไม่ถึงอ่ะ เอ้าเข้าโบสถ์ไม่ได้ ก็เข้าพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ข้างๆโบสถ์นี่ละกัน เสียตังอีกเหมือนกัน แต่คิวไม่ยาว เลยเข้าไปทั้งสามคนเลย ข้างในก็จะมีรูปภาพ หรือภาพเขียนเยอะแยะ ส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับทางศาสนานั่นแหละ ก็ดูๆไป แต่จดที่เราสนใจมากสุดคือ การขึ้นไปด้านบนสุดของพิพิธภัณฑ์ ตรงนี้เราสามารถชมวิวของเมืองได้ พ่อต้องหอบลูกปีนขึ้นไปด้วย แต่ก็ไม่หนักเท่าไหร่

ด้านหลัง Dom of Duomo ต้องถ่ายสูงเพราะด้านล่างมีร้านนั่งดื่มกาแฟ


ทางขึ้นด้านหลัง


ด้านหน้า Dom of Duomo ที่เห็นนั่นเป็นผ้าใบที่คลุมไว้ เพราะอยู่ในช่วงปรับปรุงซ่อมแซม


ด้านข้าง


พิพิธภัณฑ์ข้างๆโบสถ์ ด้านบนสุดนั้นละที่เราขึ้นไปชมเมือง


จากนี้ไปจะเป็นภาพเมืองถ่ายจากด้านบนของพิพิธภัณฑ์








จากนั้นลงมาข้างล่าง เดินมาจนถึงท้ายสุดของพิพธภัณฑ์ ก็เจอส่วนที่เป็นห้องโถง มีแท่นบูชาแล้วก็ภาพเขียนที่สวยงาม




จากนั้นเราก็หาที่กินกลางวันกัน แล้วก็เดินชมเมืองกันต่อ ตึกรามบ้านช่องที่นี่สร้างอยู่บนเนินเขา ลดหลั่นกันไป ดูสวยงามดี เห็นเป็นเมืองเล็กๆแบบนี้ แต่มีย่านชอ๊อปปิ้งที่ดูหรูหราและมียี่ห้อดังๆทั้งนั้นเลย แต่ที่เป็นเอกลักษณ์ก็คือ การตากผ้าตากหน้าต่างระหว่างสองตึกนั้นมีให้เห็นโดยทั่วไป อีกอันนึงที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงก็คือ ส้วมสาธารณะ ยังคงเป็นส้วมหลุมแบบนั่งยองๆ แล้วก็ยองแบบติดพิ้นซะด้วย ไม่มีการทำสูงขึ้นมา ถ้าเป็นคนแก่ๆที่ข้อไม่ค่อยดี ก็ลำบากหน่อย ส่วน มชล มักไม่ค่อยยอมเข้า เนื่องจากไม่คุ้นเคย ต้องบังคับและช่วยเค้า เค้าถึงจะยอมฉี่







ช่วงระหว่างตึกซึ่งจะเห็นได้ทั่วไป ชอบนะ ดูสวยดี



หลังจากเดินชมเมืองจนพอใจแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อ โดยขับรถไปตามเส้นทางที่เป็นถิ่นปลูกไวน์ ภูมิประเทศเป็นเขาเตี้ยๆจนถึงสูงปานกลางสลับกันไป ก็ดูเพลิดเพลินไปอีกแบบนึง แต่วนนานๆ เราชักจะเวียนหัวแล้ว เพราะไม่ได้กินข้าวอ่ะ กินแต่ขนมปัง ไม่ไหวๆ ร่างกายมันเรียกร้องจะกินข้าว ฮ่าๆๆๆๆๆๆ กลับที่พักดีกว่า แต่ก่อนกลับก็แวะไปยังโบสถ์เก่าแก่แห่งนึงที่ตั้งอยู่ในเส้นทางนี้ จำชื่อไม่ได้แล้ว ข้างในก็ธรรมดา ไม่ได้สวยอะไรมากมาย เพียงแต่อยู่ในทำเลที่สวยดี




05 December 2005

อิตาลี ตอนที่ 6 Toscane

Day9 27/08/05

วันนี้เราต้องออกจากแคมปิ้งแล้ว ตื่นกันตั้งแต่ 7 โมงเช้า เพราะต้องออกจากบ้านก่อน 9 โมง ตื่นมาเก็บของขึ้นรถ เก็บกวาดบ้านด้วย ไม่ถึงกับต้องทำความสะอาดใหม่เอี่ยม แต่ก็ต้องทำให้เรียบร้อย เพราะก่อนออก จะมีเจ้าหน้าที่มาดู ถ้าทำเลอะเทอะไว้ จะไม่ได้เงินมัดจำ 100 ยูโรคืน อันนี้เป็นกฎของแคมปืปิ้งเกือบจะทุกที่ เราออกเดินทางประมาณ 9.30 น. แวะกินอาหารเช้าริมถนนทางด่วนในเขตเวโรนา จากนั้นก็ขับรถมุ่งหน้าสู่แคมปิ้งที่หมู่บ้านเล็กๆชื่อBucine ในแคว้น Toscane


Toscane เป็นแคว้นที่อยู่ตอนกลางของประเทศอิตาลี่ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแคว้นที่มีความสวยงามมากที่สุดในประเทศ เนื่องจากมีภูมิประเทศเป็นเนินเขาสูงต่ำสลับกันไป เมืองเก่าๆแต่ละเมืองจะสร้างอยู่บนเนินเขา มีกำแพงรายล้อม ที่นี่ยังเป็นบ้านเกิดของศิลปินในยุค Renaissance ที่มีชื่อเสียงคือ Leonardo da Vinci, Botticelli และ Dante Alighieri ซึ่งเป็นนักเขียน นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งปลูกอยู่ในเขต Chianti, Morellino di Scansano และBrunello di Montalcino

จังหวัดต่างๆในแคว้นนี้ประกอบไปด้วย Arezzo, Florence, grosseto, Livorno, Lucca, Massa-Carrara, Pisa, Pistoia, Prato และ Siena

ภูมิประเทศในแคว้น Toscana





















บ่ายโมงกว่าๆ เราก็มาถึงที่พัก แคมปิ้งนี้ดูร่มรื่นเงียบสงบกว่าที่ที่แล้วมาก อาจเป็นเพราะเป็นช่วงปลายซัมเมอร์แล้วก็ได้ นักท่องเที่ยวเลยน้อยลง แต่ที่สังเกตได้คือ ส่วนใหญ่เป็นคนดัชต์แทบทั้งนั้นเลย มีเยอรมันประปราย ซึ่งต่างจากที่เก่า ที่นั่นเยอมันเยอะมากพอๆกับคนอิตาลีเจ้าของประเทศเอง

เราได้บังกาโลในทำเลที่เหมาะมากเลย ตรงนั้นมีแค่สองหลังหันหน้าเยื้องกัน ดูเป็นส่วนตัวดี ตรงส่วนอื่นจะเป็นลักษณะคล้ายห้องแถวเรียงกันไป หลังจากเก็บของเสร็จ ก็ไปหาอะไรกินกัน ก้กินในแคมป์นี่ล่ะ มันร้อนขี้เกีจออก อีกอย่างตอนนี้ซุปเปอร์ประจำหมู่บ้านปิด ต้องรอเปิดตอน 4 โมงครึ่ง คนขายของในแคมป์เป็นหญิงวัยสูงอายุ 2 คนพี่น้อง อัธยาศัยดีมากๆ (แม้เค้าจะพูดอังกฤษได้น้อยมากก็ตาม) สั่งมักกะโรนีมากิน(อีกแล้ว) คือที่สั่งเพราะไม่รู้จะสั่งอะไรดี อีกอย่าง มชล ก็ชอบกิน สั่งอย่างอื่นเค้าจะไม่ค่อยกิน จะเสียเงินเปล่าๆ อืม ผัดใส่เนื้อมา หอมน่ากิน หรือด้วยความหิวก็ไม่รู้ซัดซะเรียบเลย ทั้งๆที่ไรม่กินเนื้อ แต่ด้วยความหิวเลยไม่สนใจล่ะ เผอิญมันเป็นเนื้อสับ เลยพอจะกินเข้าไปได้ กินเสร็จก็เดินสำรวจแคมป์กัน แล้วก็ปล่อยให้ มชล เล่นที่สนามเด็กเล่น ที่นี่มีสระว่ายน้ำสองสระ อยู่ในบริเวณเดียวกัน ใหญ่กว่าแคมป์ที่แล้วมาก แล้วก็ไม่วุ่นวายด้วย

บ่ายสามกว่าๆ ออกไปเดินสำรวจหมู่บ้านใกล้ๆ ก็เป็นหมู่บ้านเล้กๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ หรือมีก็ไม่รู้ แต่เดินไม่ไหวแล้ว มันร้อนมากๆ ใกล้เวลาซุปเปอร์มาเก็ตเปิดก็มานั่งคอยดีกว่า พอได้เวลาก็เปิด เข้าไปเลือกๆซื้อของไว้ทำกิน สรุปวันนี้เราไม่ทำอะไรมาก ถือว่าพักเอาแรงไว้ในวันต่อไป วันนี้เราเข้านอนกัน 3 ทุ่ม ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ที่นี่ไม่มีทีวีดูอ่ะ (ที่เก่ามีทีวีด้วย)

Day10 28/08/05


วันนี้ฝนตกตั้งแต่ตีห้า ตกๆๆๆๆๆๆ แล้วมันก็ตกทั้งวันเลย ไม่ได้ทำอะไร นั่งจับเจ่าอยู่แต่ในบ้าน สลับกับเล่นกับ มชล บาร์ทเริ่มเบื่อ พอฝนเริ่มซาๆ เธอก็จะชวนออกนอกบ้านไปขับรถเที่ยวชมวิวกัน ไม่ต้องลงจากรถก้ได้ ก็ฝนมันตกจะชมอะไรล่ะ ไหนว่าจะพักผ่อนไง ก็ได้พักแล้วไงล่ะ ฝนตกพรำๆแบบนี้ เย็นๆดีออก นอนอ่านหนังสือสบายใจดีออก เอานิยายแปลไปด้วย สนุกมากๆเลย ฝนตกจนถึงสี่โมงเย็นแน่ะ ตกลงวันนั้นเราก้เลยไม่ได้ไปไหน ได้พักกันจริงๆ