28 August 2006

อัพเดตกันหน่อย

ดองบล๊อคไว้นานมากกกกกกก จนเกือบจะจำไม่ได้แล้วว่าต้องทำไงมั่ง ก็ช่วงซัมเมอร์อ่ะนะ ก็เลยทำตัวเอ้อระเหยลอยไปลอยมา ทำสวนมั่ง เล่นเป็นเพื่อนลูกมั่ง ตอนนี้โรงเรียนเปิดแล้ว มชล ไปโรงเรียนแล้ว แม่ก็แอบดีใจเล็กๆ ได้ไปโรงเรียนทุกวันแล้ว เข้าแปดโมงสี่สิบห้า เลิกบ่ายสาม ยกเว้นวันพุธไปแค่ครึ่งวัน จริงๆตอนพักเที่ยงเค้าให้เด็กกลับมากินกลางวันที่บ้านได้ แล้วพอบ่ายโมงค่อยกลับเข้าเรียนใหม่ แต่แบบนี้ไม่เอาดีกว่า เทียวรับเทียวส่งกันอยู่นั่นล่ะ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี เลยให้เค้ากินที่โรงเรียนนั่นแหละ ตกแล้วก็เดือนละเกือบห้าสิบยูโร นี้ไม่รวมอาหารนะ เป็นค่าดูแลอย่างเดียวแค่พักเที่ยง อาหารน่ะเราต้องเตรียมไปเอง

วันแรกไปโรงเรียนร้องไห้จ้าเลย แต่ดีที่ครูมาอุ้มไปปลอบ เลยค่อยหายกังวลหน่อย (ตอนเค้าอยู่เตรียมอนุบาล ครูไม่ดีเลย ไม่ปลอบ ปล่อยให้ร้อง แบบว่าร้องได้เด๋วก็เงียบได้อะไรแบบนั้น ทำให้ มชล เป็นโรคไม่อยากไปโรงเรียน) วันแรกผ่านไป ครูบอกร้องไห้บ่อย พอไม่เห็นครูก็ร้อง ช่วงเที่ยงจะมีครูอีกชุดมารับพาไปกินข้าว เธอก็ร้องอีก แต่ครูก็บอกว่าไม่ต้องกังวลหรอก เด๋วก็คงดีขึ้นเรื่อยๆ เจอครูดีก็โล่งใจไปหน่อย

วันแรกเตรียมขนมปังไปให้ แล้วก็แอปเปิ้ล กลับมาขนมปังยังอยู่เหมือนเดิม ยังดีที่กินแอปเปิ้ลหมด (ครูเค้าจะไม่บังคับถ้าเด็กไม่กิน แต่มีโน๊ตกลับมาให้เรา แบบว่าสอบสวนลูกเธอเองนะว่าทำไมไม่กิน) เราก็กังวลใจ ทำไงดี กลัวลูกหิว วันรุ่งขึ้นถาม มชล ถ้าไม่กินขนมปังงั้นนเอาข้าวไปกินที่โรงเรียนมั๊ย เธอพยักหน้า เลยเตรียมข้าวกับไก่ทอดใส่กล่องขนมปังนั่นแหละไปให้ พ่อเค้าเห็นก็ทำหน้างงๆ ก็เด็กฝรั่งมันกินขนมปังกันนี่นะ เราก็บอกช่างเหอะ ถ้าจะกินข้าวก็เอาข้าวนี่แหละ ไม่เห็นแปลกเลย ขอให้กินเหอะ ได้ผลค่ะ กลับมาข้าวพร่องไปเกือบหมด

พอวันที่สองเอาข้าวกับหมูทอดไป คราวนี้กลับมาหมดเลย เอาวะ ข้าวก็ข้าว เด๋วถ้าเค้าเริ่มเห็นว่า เอ๊ะทำไมตูกินไม่เหมือนเพื่อน ก็คงจะนึกอยากกินขนมปังไปเองแหละ แล้วก็ได้ผล อาทิตย์แรกผ่านไป เริ่มเรียกร้องจะกินขนมปัง แต่แม่มันยังแกล้งลูกอีก วันจันทร์ของอาทิตย์ที่สองก็เอาข้าวให้ มชล ไปอีก กลับมาเหลือมาหน่อยนึง แล้วเธอก็บอกว่า พรุ่งนี้ไม่เอาข้าวแล้วนะ เอาขนมปัง เฮ ได้ผลแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่างนี้เตรียมง่ายมากเลยไอ้ตูด

จริงๆก็หัดให้ มชล กินขนมปังนะ หัดให้กินอาหารฝรั่งทุกอย่าง ให้กินตามพ่อเค้า เพราะเค้าต้องอยู่ที่นี่จะมากินแต่อาหารไทยอย่างเดียวก็ไม่ได้ แต่เค้าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ยิ่งชีสเนี่ยไม่ยอมกินเลย ทั้งๆที่ไม่เคยลองนะ แต่เค้าก็ไม่กินเอง เลือดไทยมันแรง ฮ่าๆๆๆ ยิ่งผลไม้ไทยนี่ชอบมากๆเลย

ไปโรงเรียนช่วงนี้เริ่มดีขึ้นแล้ว ไม่ร้องไห้แล้ว แต่ก็ยังอิดออด แบบสองจิตสองใจ ในห้องเรียนแต่ละคนจะมีเก้าอี้ประจำตัว จัดเป็นรูปวงกลม แต่ละวันครูจะสลับสับเปลี่ยนให้นักเรียนได้นั่งติดกับครู อาทิตย์แตก มชล ได้นั่งติดครูมั่ง หรือตัวที่สองมั่ง เพราะเธอยังติดครูอยู่ แต่ตอนนี้เริ่มไม่ร้อง เริ่มเล่นกับเพื่อนมั่งแล้ว ครูเลยลองเริ่มกระเถิบไปนั่งไกลๆมั่ง แรกๆเธอจะไม่ยอม ก็ต้องบอกกันว่าผลัดกันนะลูก เด๋วนี้ไม่มีปัญหาแล้ว อืม ก็โล่งใจไปได้หน่อย ไม่งั้นแย่เลย ไปส่งโรงเรียนทีเวลากลับบ้านทีไรใจแป้วทุกที

โม้เรื่องลูกไปเยอะแล้ว มาถึงเรื่องทำสวนมั่ง อันนี้ชอบมาก แต่ไม่ถึงกับอยากเป็นชาวสวน เอาแค่งานอดิเรกก็พอ อยากปลูกผักสวนครัว แต่สวนหลังบ้านฝาละมีไม่ยอมให้ทำ เค้าบอกขอไว้ให้ฉันได้มีที่นั่งเล่นมั่งสิ เลยต้องไปเช่าที่ที่อำเภอเค้าจัดไว้ให้ ก็ไม่ใหญ่หรอก 100 x 100 ตรม. อ่ะ มีที่ว่างพอดี แต่ว่าที่ตรงนั้นมันมีต้นไม้ใหญ่ แดดส่องแค่ช่วงเช้าแล้วก็บ่ายนิดเดียวเอง แต่ก็เอาไว้ก่อน เพราะเค้าบอกว่าถ้ามีที่อื่นเค้าเลิกไม่ทำแล้ว เราจะเปลี่ยนทีหลังก็ได้ โดยไม่ต้องรอคิวแล้ว มีสิทธิ์ได้เลือกก่อน ก็เลยเอา อีกอย่างก็เป็นการทดลองเริ่มต้นไปในตัวด้วย

ช่วงแรกต้องให้บาร์ทไปช่วยขุดดินยกร่องให้ก่อน ขุดเองคนเดียวไม่ไหวอ่ะ ตอนแรกเธออิดออด ก็เลยบอกว่า โหถ้าเธอไม่ช่วยชั้นเนี่ย กว่าจะได้ปลูกพอดีหน้าร้อนหมดซะก่อนก็จบเห่เลย วันแรกไปถึงก็มีหลายๆคนมาดู กั่กๆๆๆ แบบว่าเราเด็กใหม่อ่ะ เด็กจริงๆนะ ไม่เก็ได้ไง ก็ส่วนใหญ่น่ะเป็นคนแก่ๆแบบว่าห้าสิบหกสิบขึ้นแล้วน่ะ ก็ดีนะ มาช่วยสอน ช่วยลุ้น บางคนให้ต้นสตรอร์เบอรรี่มา (ดีไม่ต้องซื้อ ) บางคนให้มันฝรั่ง บางคนก็มาช่วยขุดดินแล้วก็สอนพรวนดินด้วย


โดนบังคับให้ช่วยนะเนี่ย ก็แค่ช่วงแรกนี้ล่ะ




สรุปวันแรกก็ลงสตรอเบอร์รี่ได้สองแปลง แล้วก็มันฝรั่งหนึ่งแปลง โดยที่เราไม่ได้ซื้อเลย แล้วก็ลงถั่วแขกไว้หนึ่งแปลง ผักคะน้าแล้วก็ผักบุ้งจีนอย่างละครึ่งแปลง อ้อ แล้วก็แครอทหัวเล็กๆด้วยอีกครึ่งแปลง แล้วลุงๆเหล่านั้นก็แวะเวียนมาดูด้วยว่าสวนเราเป้นไงมั่ง ฮ่าๆๆๆ เต่เนื่องจากว่าช่วงนั้นดันหนีไปเที่ยวฟินแลนด์ซะสามอาทิตย์ กลับมาถั่วตายเรียบ ส่วนคะน้า ผักบุ้งจีน แล้วก็แครอท มันคงจะอาย ไม่ยอมโผล่หน้ามาเลย ส่วนสตรอเบอร์รี่ก็เกือบตาย แต่ยังไม่ตาย มันตายยากแค่เราเติมน้ำเข้าไปเยอะๆ ทุกวัน มันก็ฟื้นคืนชีพมาได้ใหม่แระ (ถ้ารากมันยังไม่แห้งนะ) แล้วลุงคนนึงเค้าคงสงสารมั้ง อีนี้มันไม่ได้เรื่องเลย เค้าเลยให้ต้นกล้าถั่วแขกมาลงใหม่ แบบว่าเค้าบอกมันเหลืออ่ะ รู้สึกขายหน้ายังไงไม่รู้ว่ะ ฮ่าๆๆๆๆ แถมแกยังลงมือช่วยปลูกด้วย แบบว่าคงกลัวมันตายอีกมั้ง ฮ่าๆๆๆ

อันนี้กลับจากเที่ยวก็มาเพาะต้นกล้าใหม่อีก แล้วก็มีมะเขือเทศพันธ์เชอรรี่ แบบว่าเพราะไว้ก่อนไปเที่ยว แล้วเอาไปฝากเพื่อนให้ดูให้ กลับมาก็เอามาลง อ้อ แล้วก็มีต้นข้าวโพดอีกสี่ห้าต้น ลงไว้ก่อนไปเที่ยวเหมือนกัน แต่มันโตแบบแคระ เลยจัดการขุดแล้วย้ายมาปลูกใหม่ตรงที่ที่แดดส่องถึง ตอนนี้มันออกฝักแล้ว เย้ ได้ผลเหมือนกัน คือจริงๆแล้วเนี่ย เห็นสวนของเราแล้วปวดใจ เพราะมันโตแบบไม่เต็มใจเท่าไหร่ เนื่องจากแดดมันคงไม่พอมั้ง อีกอย่าง เนื่องจากตรงนั้นมันมีต้นไม้ใหญ่ พอถึงหน้าใบไม้ร่วง ที่ตรงนั้นมันก็เลยเต็มไปด้วยใบไม้เยอะมากๆ ดินมันคงจะเปรี้ยวเกินไปหรือไงนี่ล่ะ ปลูกอะไรมันเลยไม่ค่อยจะงาม เพราะของคนอื่นน่ะ งามหยดย้อย ใบเบ้งๆทั้งนั้นเลย แล้วมีความเปิ่นอีก ไอ้ถั่วแขกเนี่ย เราก็นึกว่ามันต้องเลื้อยหมดแหละใช่มั๊ย แต่ไม่ใช่ค่ะ มันมีแบบที่ไม่ต้องเลื้อยด้วย มันสูงแค่ไม้บรรทัดเอง แหมดันทำร้านให้มันเรื้อยอย่างดี ดีที่ได้ถั่วของลุงๆท่านมาช่วยกู้หน้าเลื้อยให้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

ทีนี้เห็นว่ามันเพิ่งเดือนกรกรฎาเอง อากาศยังร้อนอยู่ เลยลองเพาะผักคะน้ากับผักบุ้งใหม่ดิ๊ เอ๊ะ มันงอกแฮะ ด้วยความอยากรู้ว่าทำไมมันจึงไม่ยอมขึ้นที่สวนล่ะเนี่ย เป็นเพราะแดดมันไม่จัดหรือเปล่า ก็เลยแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกเอาไปปลูกลงกระถางแล้วตั้งไว้สวนหลังบ้านเรานี่แหละ ที่เหลือเอาไปปลูกที่สวน เพราะลุงแถวนั้นบอกว่าไม่เกี่ยวกับแดดหรอก เราก็เถียงในใจ ไม่เกี่ยวได้ไง ปุ๋ยก็ใส่ไปตั้งเยอะนะ ผลปรากฎว่าที่อยู่ในกระถางนะงามแท้เพราะได้แดดเต็มที่ ส่วนคะน้าที่ปลูกไว้ที่สวนโตเหมือนกัน แต่สู้ที่บ้านไมได้ นอกนั้นก็เพาะต้นบวบเหลี่ยมกับน้ำเต้าด้วย งามมาก ใบเท่ากระด้งเลย อันนี้ก็ปลูกในกระถางตั้งไว้หลังบ้านเหมือนกัน แต่จะได้กินมันป่าวไม่รู้ คงไม่ทันแน่เลย มันเริ่มจะเย็นๆแล้วด้วย เลือกเอาไปลงที่สวนด้วย ผลหรอคะ ตายเรียบอ่ะ ถึงไม่ตายมันก็ไม่โต แคระแกรนอยู่อย่างนั้น นี่ก็จ้องๆอยู่ เด๋วใครเลิกทำจะขอย้ายที่แล้วล่ะ

อ้อ แต่ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลยนะ มีเจ้าถั่วแขกนี่ล่ะที่เป็นหน้าเป็นตาให้เราได้ ก็เก็บกินไปห้าหกครั้งแล้ว ครั้งละเกือบกิโลเชียว กินไม่ทันก็เอาไปให้เพื่อนคนสิงคโปร์มั่ง ให้คนดัชท์มั่ง แต่ก็ต้องเลือกด้วย ให้สุ่มสี่สุ่มห้า เด๋วเค้าจะว่าเราได้ว่ามาให้ทำไม หุหุ อ้อ แล้วมีอีก ช่วงแรกน่ะ สวนคนอื่นเค้าก็งามรุ่งโรจน์กัน เก็บเกี่ยวผลกันไปเยอะแล้ว ของเรานี่ยังไม่ได้อะไรเลย ลุงๆทั้งหลายก็พากันเอามาแบ่งให้เรา อุ๊ย อายเหมือนกันนะ ก็ทำสวนเหมือนกันนี่นะ

เขียนมาเรื่อยเปื่อย โหย ยาวเหมือนกันแฮะ จบมันดื้อๆงี้ล่ะ เอารูปผลงานมาดูดีกว่า แต่มีรูปไม่ครบอ่ะนะ ไปทีไรก็ลืมเอากล้องไป เลยไม่มีรูปต้นข้าวโพด สตรอเบอร์รี่แล้วก็มันฝรั่ง


ถัวแขก







มะเขือเทศ เมล็ดที่ปลูกก็เอามาจากที่เหลือกินนั่นแหละไม่ได้ซื้อ มันก็งามได้





ผลผลิตรุ่นแรกๆ



ผักบุ้งจีนในกระถาง



มะเขือเทศพันธ์เชอร์รี่ในกระถางก็งามได้เหมือนกัน



น้ำเต้ากับบวบเหลี่ยมในกระถางเหมือนกัน



พริกชี้ฟ้าหรือพริกขี้หนูก็ไม่แน่ใจ เพราะว่าเพาะหลายรอบกว่าจะขึ้นในกระถาง งามมาก รอลุ้นอยู่



ผักคะน้า



ผักบุ้งจีนเอามาผัดไฟแดง



ถั่วแขกรอบถัดไป สามสี่วันไปเก็บทีก็ได้เป็นกิโล



อันนี้คะน้า เอามาทำราดหน้ากิน



มันฝรั่ง สองกิโลได้มั้ง ปีนี้โชคร้าย มันร้อน ผลผลิตเลยได้น้อย