07 October 2006

ฟินแลนด์ ตอนที่1

จนได้ๆ กะว่าจะไม่ดองแล้วเชียวนา คราวนี้ไม่ได้ตั้งใจดองเลยจริงๆนะเนี่ย แต่ก็มีเหตุอีกจนได้ ก่อนหน้านั้นก็ยุ่งโน่นนี่ไปเรื่อย แล้วก็พอดีเพื่อนมาพักด้วยอาทิตย์นึง ก็เลยหนุกหนานกับเพื่อนไปก่อน ส่วนมากก็คุยๆๆๆแล้วก็กินๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ ดีใจอ่ะ มีเพื่อนกิน ก็กินคนเดียวมันไม่อร่อย ไม่แซ่บนี่นา หลุดจากเพื่อน ก็จะมีลูกค้ารายแรกมาพักด้วย 3 คืน 4 วัน ก็มาพักอย่างเดียวแล้วเที่ยวเอง ก็เลยเตรียมบ้านต้อนรับลูกค้ารายแรกอีก จริงๆก็มีติดต่อมาพอสมควรล่ะ แต่ยังไม่มีใครกล้ามาเสี่ยง อิอิ มะใช่ๆๆๆ บ้างทีเราเองก็ไม่ว่างที่จะต้อนรับ ก็เลยคลาดกันเรื่อยมา พูดงี้เด๋วยิ่งไม่มีใครมากล้ากันพอดี ใครจะมาเที่ยวก็ยินดีต้อนรับนะคะ แอบโฆษณาเล็กๆ อิอิ

ที่ร่ายมายาวก็แบบว่าแก้ตัวนิดๆอ่ะนะ เพราะมีเพื่อนๆหลายคนแวะเวียนมาแล้วก็มาเจอหน้าเดิมๆ ก็ต้องขอบคุณและขอโต๊ดด้วยค่ะ ที่ทำให้ต้องมาเก้อ เอาเป็นว่า วันนี้มาอัพซะนิดนึงก่อนน้า อายๆจริงๆเลย มาๆๆๆไปกันเลยจ้า

เตรียมตัวก่อนเดินทาง

ยิ่งใกล้ถึงวันเดินทาง ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น อยากให้มาถึงไวๆ แทบอดใจไม่ไหวเลย แต่ก่อนการเดินทาง ก็ต้องเตรียมข้าวของที่จำเป็นต่าง เช่นอาหารการกิน จำพวกของแห้งที่สามารถขนไปได้ เรื่องกินนี้เรื่องใหญ่ อิอิ และที่ขาดไม่ได้คือ หนังสือท่องเที่ยวทั้งหลายแหล่ รวมถึงแผนที่เส้นทางขับรถด้วย อันนี้จำเป็นมาก การหาข้อมูลไว้ก่อนนี้จะทำให้เราไม่พลาดสถานที่ที่สำคัญ ไม่ถึงกับต้องไปทุกที่ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากไป

ใช้มัน 3เล่มเลย


ครั้งนี้เราใช้หนังสือสามเล่มด้วยกัน ก่อนอื่นเราก็ดูก่อนเลยว่าที่ตรงไหนที่หนังสือแนะนำไว้ว่าไม่ควรพลาด หรือเป็นท๊อปเทน แล้วก็ทำลิสต์ไว้เลย จากนั้นก็มาดูว่ามันอยู่ตรงไหน อยู่ในเส้นทางเดียวกับที่เราจะไปหรือเปล่า หรือแม้ไม่ใช่เส้นทางผ่านโดยตรง แต่มีเวลาที่จะเลี้ยวลดคดโค้งไปมั่งได้มั๊ยอะไรแบบนี้แหละ ฮ่าๆๆๆ ดูเสร็จ วางแผนเสร็จตามที่เราชอบ ก็ไปถามแกมสั่งนิดๆ อิอิ ว่านี่นะ ตรงนี้นะ ถ้าเป็นไปได้เราไม่น่าจะพลาดนะ อะไรแบบนี้แหละ แต่ขนาดนี้ก็ยังมีพลาดจนได้ อิอิ



แล้วก็นี่แผนที่ เล่มสีแดงนั่นแสดงรายละเอียดของทุกเมืองในเยอรมัน( อันนี้จำเป็นเหมือนกัน เพราะบางทีขับหลงเข้าเมืองไป ก็ต้องใช้กันหน่อย) แล้วก็มีแผนที่เส้นทางเยอรมันตอนเหนือและตะวันออกติดกับโปแลนด์ แล้วก็มีแผนที่รวมแถบสแกนดิเนเวียอีกด้วย สุดท้ายสำคัญมากคือแผนที่ทั่วทั้งประเทศของฟินแลนด์นั่นเอง

บรรดาสเบียงต่างๆ


ส่วนอันนี้ขาดไม่ได้เลยนะนั่น บรรดาเสบียงต่างๆ ก็เป็นพวกเครื่องปรุง เช่น น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำตาล ชากาแฟ ก็เอาแบบขนาดประหยัดไป ไม่พอค่อยไปซื้อใหม่ แต่ที่ขาดไม่ได้คือ ข้าวสาร เพราะจำเป็นอ่ะ ไม่ต้องกินทุกมื้อก็ได้ แต่ต้องเอาไปไว้ก่อน ข้าวไทยอร่อยที่ซู๊ดด แบบว่าถ้าไม่ได้กินข้าวติดต่อกันหลายวัน (คือหมายความว่ากินอย่างอื่นแทนข้าวมาหลายวันแล้วอ่ะ) มันรู้สึกแย่ ไม่รู้ใครเคยเป็นมั่ง แบบว่าวันนี้ต้องข้าวเท่านั้น ไม่งั้นไม่รอดแน่ ที่ไม่รอดเนี่ยก็คนข้างๆแหละอาจโดนพายุโมโหหิวจากเราเข้าให้
ฮ่าๆๆๆๆ เอารถไปเองมันก็ดีแบบนี้แหละ

มาถึงอันนี้ สำคัญมากถึงมากที่สุด ก็คือเจ้าฮาร์ดดิสตัวเล็กๆ เอาไว้โหลดภาพจากกล้อง เจ้าตัวนี้แหละทำให้เราถ่ายภาพแบบไม่ต้องเกรงใจ ถ่ายกันเข้าไปไม่ต้องกลัวว่าจะเต็ม เหมาะสำหรับเราคนถ่ายเป็นอย่างเดียว ถ่ายๆๆมันเข้าไป มันต้องมีซักภาพแหละที่สวยสมใจ หากใครสนใจก็ลองหาทางเนตดูแล้วกัน


เมื่อเตรียมของทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็มาเริ่มเดินทางกันเลยดีกว่า รอมานานแสนนานแระ

Day 1 (30/5/06)Einhoven(Netherlands)- Rostock(German)650 km.

ในที่สุดก็ถึงวันรอคอยซะที ในวันแรกนี้เราต้องขับรถจากบ้านไปเมือง Rostock ที่เยอรมัน ระยะทางประมาณ 650 กม. ถ้าขับรถโดยไม่พักเลยก็ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงครึ่งถึงเจ็ดชั่วโมง เราจะต้องไปขึ้นเรือเวลา ห้าทุ่มของวันนี้ ดังนั้นเราจึงมีเวลาเหลือเฟือ ไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นไปแต่เช้า แต่ถึงยังไงเราก็ตื่นเช้าอยู่ดี ด้วยความตื่นเต้น และจะได้มีเวลาตรวจตราของด้วยว่า ลืมอะไรมั่งหรือเปล่า

หลังจากจัดแจงกับอาหารเช้าง่ายๆแล้ว (รวมทั้งเตรียมข้าวผัดกับไข่เจียวไว้กินกลางทางด้วย) และจัดสัมภาระต่างๆใส่รถเสร็จเรียบร้อย เราก็พร้อมออกเดินทางกันในเวลาเกือบ 10 โมง เราเลือกใช้เส้นทางด่วน จากบ้านเราเข้าเยอรมันใช้เวลาไม่นาน เพราะบ้านเราอยู่ทางใต้ เส้นทางที่จะไปคือ Eindhoven - Venlo-Duisburg-Bremen-Hamburg-Rostock


คนนี้เธอเตรียมพร้อมแล้วค่ะ


ขับรถมาเรื่อยๆ เกือบสองชั่วโมงแล้ว ใกล้ๆจะถึงเมือง Bremen แล้ว เรียกว่าเกือบครึ่งทางแล้วล่ะ อีกอย่างก็เที่ยงแล้ว กะว่าจะหยุดพักกินข้าวกันข้างทาง จอดรถเสร็จเรียบร้อย เตรียมของลงมาจะปิคนิคซะหน่อย แล้วก็ได้เกิดอาการหัวเสียขึ้นมาเชียว เมื่อบาร์ทเธอจะกินกาแฟ แต่หากระเป๋าสตางค์ไม่เจอ เฮ้อ ไม่ได้หายค่ะ แต่เธอลืมเอามา น่าน ให้มันได้ยังงั้นสิ แหมเห็นเตรียมโน่นเตรียมนี่ แต่ดันลืมเอากระเป๋าสตางค์ใส่เป้มาด้วย เวลาเราเตือนเธอก็จะง่องแง่งนิดหน่อย แต่พอไม่เตือนแล้วเป็นไงล่ะ ที่จริงเงินน่ะไม่เท่าไหร่ เพราะเราเอากระเป๋าสตางค์มา บัตรเครดิตของเราก็มี คงไม่เดือดร้อน แต่ที่เดือดร้อนคือ มันไม่มีใบขับขี่อะดิ ใบขับขี่มันอยู่ในน้าน เดือนร้อนแล้วดิ ถ้าขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ เกิดซวยโดนตำรวจเรียกหรือเกิดอะไรขึ้น แย่แน่เลย จะให้เราขับคนเดียว ก็ไม่ไหวอ่ะ ทั้งทริปยี่สิบกว่าวัน แย่แน่เลย

แล้วทำไงอ่ะ ก็ต้องขับรถกลับบ้านอ่ะดิ ตอนแรกมันจะไม่กลับ บอกขับไปงี้แหละ (เออ เริ่มเรียก มัน แล้ว )แต่ดูท่าก็รู้ว่ากังวล ขี้เกียจเถียง เด๋วมันก็เปลี่ยนใจเองแหละ ทำไม่รู้ไม่ชี้ ได้ผล แป๊บเดียวเท่านั้น มันก็บอกว่า อืม กลับก็ได้นะ ยังทัน กินข้าวกันก่อนแล้วค่อยกลับ กะว่า เสร็จบ่ายโมง ถึงบ้านบ่ายสาม แล้วออกใหม่ขับรวดเดียวก็จะถึงท่าเรือประมาณห้าทุ่มหรือเที่ยงคืน ยังทันขึ้นเรือนะ ถ้าไม่ทันจริงๆก็รอขึ้นตอนตีสามก็ได้ เพราะเรือจะออกจริงๆตีห้า โอเค มันเลือกไม่ได้นี่ แล้วก็บ่นมันตามระเบียบ แหม ลืมอะไรไม่ลืม ดันลืมใบขับขี่ บ้าจริง แต่มานึกอีกที ดีนะที่รู้ตัวซะตั้งแต่ครึ่งทาง ยังกลับตัวทัน ถ้าไปรูเอาที่ท่าเรือนั่น แย่แน่เลยเรา ต้องขับเองทั้งทริป คงได้ตบตีกันไปเที่ยวกันไปแน่เลย

จอดรถแวะกินกลางวันนี่แหละถึงได้รู้ว่าลืมกระเป๋าตัง

กินไปก็หน้างอไปด้วย


ในที่สุดก็เฆี่ยนรถกลับบ้าน ไปถึงบ้านบ่ายสามตามที่กะไว้พอดีเชียว แล้วเธอยังมีการโทรหาแม่เธอด้วยนะ บอกว่าตอนนี้อยู่บ้านจ้า ทำให้แม่แกงงเล่น จากนั้นเอาของสำคัญแล้วก็รีบออกตัวกันใหม่ แล้วเธอก็เลยจะเปลี่ยนเส้นทางอีกซะงั้น แบบว่าบ่ายๆแบบนี้ไปทางเก่ารถอาจติดได้ ไปทางใหม่กันเหอะ เราไม่เห็นด้วยนะ แต่นิสัยเธอก็มักจะชอบโน้มน้าวอยู่เรื่อย เอาเหอะ ตามใจ แต่คอยดูถ้าเจอรถติดเป็นได้หงุดหงิดแน่ แล้วอย่าหาว่าไม่เตือนล่ะ

แล้วก็เป็นดังคาด ทางที่จะไปติดแหงกตั้งแต่เริ่มต้นเลย ไปเจอเค้าทำทางอีก ขยับได้ทีละหน่อย นานๆเข้าก็เจอช่วงเวลาเลิกงาน เป็นไงล่ะ กว่าจะหลุดมาได้ สี่โมงเย็นแล้ว ยังไม่หลุดจากฮอลแลนด์เล๊ย ขี้เกียจบ่นมันแล้ว หลับดีกว่า หลับๆตื่นๆก็มาจนเกือบจะถึง Bremen ในเยอรมันแล้วล่ะ พักกินข้าวก่อนตอนทุ่มกว่าๆ กินเสร็จประมาณสองทุ่ม ก็บึ่งไปท่าเรือทันที เธอขับอย่างเดียวไม่มีบ่น จะจอดก็ตอน มชล ปวดฉี่เท่านั้น

งวดนี้ มชล เธอตื่นเต้นเป็นพิเศษ ไม่ค่อยหลับเหมือนทุกครั้ง มีหลับแค่ขามาช่วงเดียวเอง นอนนั้นตื่นตลอด เพราะเธอรู้ว่าจะไปขึ้นเรือใหญ่กัน เธอก็เลยเฝ้าคอยว่าเมื่อไหร่จะได้ขึ้นเรือใหญ่ซะที

แวะกินอาหารระหว่างทาง
ใส้กรอกเยอรมัน กินเมื่อไหร่ก็อร่อยเมื่อนั้น ชอบมากๆ



ในที่สุดเราก็มาถึงท่าเรือที่ Rostock ในเวลาอีก 10 นาทีจะห้าทุ่ม ทันเวลาพอดี มีรถจอดรอขึ้นเรืออยู่แล้ว แต่ก็ไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นรถจากเยอรมัน มีสัญชาติฮอลแลนด์ให้เห็นอยู่สองสามคันเท่านั้น (ถ้าเป็นช่วงซัมเมอร์จะได้เห็นเยอะกว่านี้อีก) มชล พอเห็นเรือเท่านั้น ตื่นเต้นมาก ตลอดทาง เธอไม่หลับเลย ทั้งๆที่นี่ก็ห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เธอง่องแง่ง จะลงจากรถไปขึ้นเรือให้ได้เลย ต้องบอกว่า รอก่อนลูก ยังไม่ถึงเวลาเลย แต่ก็โห รอเช็คอินนานมั่กๆเลย เกือบเที่ยงคืนอ่ะถึงจะเช็คอินเข้าไปได้ เข้าไปแล้วก็ยังเอารถลงเรือไม่ได้ทันทีอีก ข้างในมีรถต่อแถวอยู่เยอะแยะแล้วด้วย ต้องไปต่อแถวข้างในอีกเกือบครึ่งชั่วโมง กว่าจะได้ขึ้นเรือจริงก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่าแล้ว ช่วงขับรถลงไปใต้ท้องเรือ มชล เกิดการงอนง่องแง่งอีก เธอบอกว่าเธอจะขึ้นเรือ ทำไมไม่ให้เธอขึ้นล่ะ เราก็บอกว่า นี่ไงลูก ก็กำลังขับรถลงไปในเรือไงลูก เธอบอกว่า ไม่เอา จะเดินอ่ะ เออ เด็กหนอเด็ก

เฮ้อ กว่าจะจอดรถในเรือให้เรียบร้อยแล้ว กว่าจะขนของขึ้นไปเก็บ ก็ปาเข้าไปตีหนึ่ง เราก็อยากจะพักผ่อน แต่บาร์ทอยากจะไปสำรวจเรือ เอ้า ก็ลงไปอีก จริงๆไม่อยากไปเลย อยากพักมากกว่า แต่ มชล ก็ตื่นเต้นจนไม่ยอมนอนแล้ว ก็เลยพากันลงไปดูเรืออีก ยังไม่เล่าดีกว่าว่ามีอะไรมั่ง เอาไว้เล่าตอนหน้าดีกว่า เหนื่อยเหลือเกิน เอา มชล มานอนได้แล้ว ตีสองแล้วนี่นะ แต่กว่าจะหลับกันได้ ก็ตีสามโน่นแหละ ห่วงลูกเหมือนกัน กะว่าวันแรกจะเดินทางแบบสบายๆ กลายเป็นการเริ่มต้นที่โหดๆไปได้ซะนี่

อ้อ ระหว่างที่รอลงเรือนั้น บาร์ทก็โทรไปหาแม่เค้า บอกว่าตอนนี้ถึงแล้วนะ อะไรประมาณนั้น แม่เค้าบอกว่า ที่ฮอลแลนด์ตอนนี้ลมแรงมากๆ ส่วนที่เยอรมันทางตอนใต้มีหิมะตก เออ เอาเข้าไป หิมะตกต้นเดือนมิถุนาเนี่ยนะ อากาศวิปริตซะแล้ว แต่โชคดีตอนที่เราขับรถมาระหว่างทางในเยอรมัน มีฝนตกปรอยๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเลวร้ายอะไร บาร์ทชอบปากเสีย ชอบพูดเรื่องลมแรง ฝนตก ก่อนขึ้นเรือ ยิ่งกลัวๆอยู่ ต้องอยู่บนเรือตั้งเป็นวันๆนี่ มองไปก็เห็นแต่น้ำกกับฟ้า ไม่ชอบเลย มันเวิ้งว้างซะจริงๆ

รอขึ้นเรือนี้แหละ


ภายในห้องนอน






เรือออกเดินทางตามเวลาตีห้า ตอนออกน่ะไม่รู้สึกตัวหรอก รู้สึกตัวอีกทีก็รู้สึกว่าเรือมันวิ่งแล้วนะ แต่นอนต่อแล้วกัน จะเอาวันที่สองมาต่อก็กลัวว่าภาพมันจะเยอะเกินไป โหลดกันไม่ไหว เด๋วพรุ่งนี้ตื่นมาค่อยมาเล่าต่อน้า อิอิ จะโดนต่อว่ามั๊ยเนี่ย