18 August 2005

กลับบ้าน มิถุนา - กรกฎา 2005 (อาทิตย์ที่ 5และ 6 สุดท้าย)

อาทิตย์ที่ห้านี้ ไปค้างหัวหินกับแม่และลุง 3 วัน 2 คืน เรียกว่าไปเปลี่ยนที่นอนและที่กิน เพราะไม่ได้ไปเที่ยวไหน มิเชลเลอร์สนุกมาก เพราะว่าได้เล่นน้ำทั้งเช้าเย็น เรียกว่าตัวดำกันทั้งแม่ทั้งลูกเลย ส่วนเราก็ได้กินอาหารทะเลเต็มที่ เราไปกินที่ร้านไข่มุกในตลาดหัวหิน เป็นร้านธรรมดา แต่อร่อย รวดเร็วทันใจดีด้วย ไปกินที่นี่ทั้งสองวันเลย ได้กินกุ้งเผา ปูม้านึ่ง หอยแครงลวก หอยแมลภู่นึ่ง ปลาหมึกย่าง ทะเลผัดฉ่า อันนี้เผ็ดซะใจดี มิเชลเลอร์ก็กินกุ้งเผาได้เยอะเลย มาเที่ยวนี้มิเชลเลอร์ไม่มีปัญหาเรื่องกินเลย ผลไม้ก็ชอบกิน ทุกเช้าต้องซื้อมะม่วงจากรถเข็น ซี้กันดีกับคนขายเลย กินข้าวเสร็จก็ ต้องพา เค้าไปกินไอติมด้วย กลับมาหลับสบาย เฮ้อ อีกตั้งนานกว่าจะได้กลับไปกินอย่างงี้อีก

อาทิตย์สุดท้าย นัดเจอเพื่อนๆที่เรียนโทด้วยกันที่เกษตร (เลยมีหลายวัย) ที่บ้านน้องเอ๋กับพี่หมู แล้วทำอาหารกินกันเอง พี่อรกับพี่เจี๊ยบสามีก็พาลูกมาจากสิงห์บุรีด้วย เด็กๆได้เล่นกันสนุกสนาน


บ้านน้องเอ๋


จากซ้าย น้องแดง นุช พี่ซิ้ม และอัจคนหน้าสุด

เป้กับว่าที่กิ๊กคนใหม่

อยากซื้อมาให้ลูกเล่นมั่ง

ปลาราดน้ำปลาสูตรหม่าม้าน้องแดง

กุ้งนึ่ง

มะม่วงน้ำปลาหวาน

หอยดองฝีมือแม่เราเอง



ปลาเก๋านึ่งมะนาว

หอยแครงตัวใหญ่ๆ

ปลาหมึกย่างฝีมือเป้



พี่ซิ้มกะพี่อร

มิเชลเลอร์ชอบมากๆ เตะฟุตบอล





เกรทกะออมลูกพี่อร

รถพี่หมูแกทำเอง เอาไว้พาลูกสาว(คนยืนหลัง)นั่งรอบหมู่บ้านตอนเย็น

เด็กคนอื่นๆเค้าได้นั่งคนละรอบก่อนกลับบ้าน แต่มิเชลเลอร์ขอสี่รอบ อิอิ

แล้วก็ต้องถึงเวลาจากกัน ปีหน้าค่อยเจอกันใหม่ กลับมาเที่ยวนี้แม่กับลุงคิดถึงมิเชลเลอร์มากๆเลย เพราะงวดนี้แม่พามิเชลเลอร์ไปข้างนอกด้วยบ่อยๆ โดยเฉพาะมิเชลเลอร์นี่รอคอยลุงมาตอนเย็นเลย เพราะอยากจะไปฟูดแลนด์ ไปกินเฟร้นซ์ฟราย อีกอย่างเค้าคุยเก่งขึ้นเยอะเลย ต่อล้อต่อเถียงกับแม่ได้แล้ว ก่อนนอนต้องหอมซ้ายขวากันก่อน ถึงตอนนี้แม่หัดเล่นเอ็มเอสเอ็นได้แล้ว เพราะอยากเห็นมิเชลเลอร์ผ่านเวปแคม



กลับบ้านแล้วร้องจะกินมะม่วงให้กินส้มแทน เฮ้อ

ไม่ว่าจะนั่งท่าไหนก็ต้องประสานมือเรียบร้อยตลอดเลย

17 August 2005

กลับบ้าน มิถุนา - กรกฎา 2005 (อาทิตย์ที่4)

อาทิตย์ที่สี่แล้ว พอคิดแค่ว่าเหลืออีกสองอาทิตย์เท่านั้น ก้รู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วเหลือเกิน โน่นนี่ก็ยังไม่ได้ทำ กินก็ยังไม่เยอะ อิอิ เรื่องนี้สำคัญ อาทิตย์นี้ไปพัทยากับน้องสาว ก้ไปค้างแค่คืนเดียว แค่เปลี่ยนบรรยากาศเท่านั้นแหละ ไปพักที่พัทยาปาร์ครีสอร์ อยู่พัทยาใต้ มีสวนน้ำขนาดใหญ่ แล้วก็สวนสนุกขนาดย่อม ก็ดีเหมือนกัน เราได้อยู่ชั้น 15 เป็นห้องใหญ่ มีหนึ่งห้องนอน แล้วก็เตียงอีกสองเตียงตรงห้องนั่งเล่น ก็อยู่ได้สองครอบครัว แล้วก็เป็นซีวิวด้วย ดีเหมือนกัน เข้าห้องพัก พอหายเหนื่อย ก็พามเชลเลอร์ลงไปเล่นน้ำที่สวนน้า ไม่ได้ถ่ายรูป เพราะคราวนี้ไม่มีช่างภาพส่วนตัวไปด้วย ตอนเย็นไปกินช้าวกันทีร้านสุดทางรัก พัทยาใต้ อาหารอร่อย ที่สำคัญมิเชลเลอร์ได้เจอกิ๊ก อิอิ

วันนี้มิเชลเลอร์เหนื่อยทั้งวัน จะหลับตั้งแต่ตอนนั่งรถไปกินข้าวแล้วล่ะ ขนาดตาจะปิด พอบอกให้นอน เอามั้ย เธอสั่นหัวทันที ทั้งทีตายังปิดนั่นแหละ เลยกลายเป็นที่ล้อเลียนสนุกสนาน เข้าร้านอาหารเจอกิ๊ก เลยหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง ขากลับกะจะพาไปกินไอติมสเวนเซ่นซะหน่อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กิน เพราะพอขึ้นรถได้ก็หลับทันที ปลุกยังไงก็ไม่ตื่นแล้ว ทั้งขำทั้งน่าสงสาร อิอิ

รุ่งเช้าไม่ได้เล่น้ำ กลัวตัวดำ อิอิ เก็บข้าวของเสร็จ ลงมาเล่นสวนสนุกต่อ กว่าจะได้กลับก็นานหน่อย เพราะมเชลเลอร์ติดใจม้าหมุน เล่นซะหลายรอบเลย จะขึ้นชิงช้าหมุนแบบเร็วๆด้วยนะ แต่ไม่ไหว ยังเด็กไป ขากลับหลับยาว คงเหนื่อยมากจริงๆ


ก่อนออกจากบ้าน รอน้องมารับ
ระหว่างทางแวะกินไก่เคเอฟซี เหมือนเดิมต้องรอเธอเล่นก่อน


สวนน้ำ ถ่ายจากห้องพัก

คู่ซี้



กิ๊กมิเชลเลอร์

ขอกินด้วยดิ



มีแววพอเป็นนางแบบได้ป่าวค้า

กับบอสลูกน้องสาว

เครื่องดนตรีหมุน



ต้องให้คนคุมเครื่องมานั่งด้วยกันหล่น แม่นั่งไม่ไหวกลัวเวียนหัว



เอาอีก คนคุมก็ไม่ไหวแล้วเวียนหัวเด๊
ในที่สุดก็ได้กินสเวนเซ่นก่อนกลับบ้าน
ขอหนูแต่งหน้าก่อนนะ(ทำตามแบบยายอ่ะ)
กลับมาจากพัทยาก็นัดเจอกับเพื่อนสมัยเรียนมัธยมด้วยกัน ยังคบกันจนถึงทุกวันนี้ ไปเจอกันบ้านผึ้ง เพราะดูแล้วร่มรื่นดี บรรยากาศแบบบ้านนอก อิอิ ชอบ
ระหว่างรอแอ๊คมารับ ขอถ่ายรูปหน่อย
บรรยากาศบ้านนอกเลย
ลูกชายแอ๊ค (คนใส่แว่น) 7 เดือน ส่วนคนตัวใหญ่ๆนะ ผึ้งเจ้าของบ้าน

12 August 2005

กลับบ้าน มิถุนา - กรกฎา 2005 ( อาทิตย์ที่ 3 )


เข้าอาทิตย์ที่สามแล้ว เร็วเหมือนกัน ตอนนี้มิเชลเลอร์เริ่มพูดไทยได้มากขึ้นแล้ว จากที่ตอนแรกใครพูดอะไรด้วย เค้าก็ฟังออกแต่ ก็จะตอบเป็นภาษาดัชท์ ตอนนี้ตอบเป็นภาษาไทยแล้ว บางทีก็เรียงประโยคสลับกัน ก็ขำดี เวลาเล่นคนเดียว ก็เริ่มพูดเป็นภาษาไทยด้วยเหมือนกัน

อาทิตย์นี้เพื่อนมารับไปบ้านพี่อรที่สิงห์บุรีกัน ชุดเดิมยืนพื้นก็มี พี่ซิ้ม อัจ น้องเอ๋กะพี่หมู แล้วก็น้องเอ๋ย ลูกสาว นานๆได้เจอกันทีก็เมาท์กระจาย เด็กๆก้ได้เล่นด้วยกัน มิเชลเลอร์สนุกมาก เล่นซะจนเหนื่อยหน้าแดงเชียว เห็นแล้วก็นึกให้สงสารว่า เดี๋ยวกลับบ้านก็ต้องเล่นคนเดียวอีกแล้ว จากบ้านพี่อร เราก็ไปกินอาหารกันที่ร้านที่เราอุสาห์เลือกเองเลย (ดูจาก คสคส ) เสียดายไม่อร่อยเหมือนที่บรรยายไว้เลย กินเสร็จก็ต้องร่ำรากัน วันนั้นอากาศร้อนมากๆ รวมทั้งอัจไมเกรนขึ้น เลยกลับกันดีกว่า ยังมีเวลาเหลืออีก เดี๋ยวคงได้เจอกัน

น้องเอ๋ย(นุ่งกางเกงขายาว) อีกสองคนลูกพี่อร

ท่านั่งประจำ สังเกตมืออิอิ (ไมได้สอนเลยนะเนี่ย)

วันถัดไป ไปกินกลางวันกันกับครอบครัว ที่ร้านซุ้มป่าสัก อยุธยา มีเรือล่องแม่น้ำด้วย เราเลือกนั่งบนเรือ อาหารใช้ได้เลย บรรยากาศก็ดี ในเรือมีร้องเพลงให้ฟังด้วย วันนั้นคนไม่แน่นเท่าไหร่ แต่ก็ดี เด็กๆวิ่งเล่นได้เลย

ดูมาดซะก่อน









อยากจะร้องเพลงกับเค้าด้วย พอเค้าเรียกก็ไม่ยอมเข้าไป

กินเสร็จก็ออกมายืดเส้นยืดสายชมวิว





วัดพนัญเชิง



ซากเมืองเก่า



กลับบ้านมาขี่จักรยานต่อได้อีก ไม่มีง่วงนอนซะเลย

28 มิย วันเกิดมิเชลเลอร์

ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้จัดงานเป่าเค๊กให้ลูก (ปีแรกจัดแต่ไม่ได้เป่าเค๊ก ปีที่สองติดไปเที่ยว) สั่งเค๊กจากเอสแอนด์พีเป็นรูปม้า ตอนสั่งไม่ได้นึกอะไร เห็นสวยดี พอเสร็จแล้วนึกขึ้นได้ ว่าเหมาะเลย เพราะเค้าเกิดปีม้าพอดี ก็มีแต่น้องๆแล้วก็หลานมาแค่นั้นแหละ ไม่ได้ชวนใครอีก