04 February 2005

เพื่อนใหม่



เพื่อนใหม่ของเรานั้น ไม่ใช่คนเป็นๆ แต่เป็นจอสี่เหลี่ยม มีแป้นพิมพ์ ใช่แล้วล่ะ เพื่อนใหม่ของเราคือคอมพิวเตอร์นั่นเอง มันคือเพื่อนของเราจริงๆนะ ในยามที่เราต้องมาอยู่ต่างแดนอย่างนี้ เพราะอยู่นี่เราไม่สามารถจะพูดคุยกับแม่ กับพี่น้อง กับเพื่อนๆได้ง่ายเหมือนก่อนอีกแล้ว ไม่ได้พบกันเหมือนก่อนอีกแล้ว สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้คลายเหงาลงได้บ้างคือ เจ้าคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เนตนี่เอง

มาอยู่ที่นี่เราได้รู้จักเพื่อนใหม่ ทั้งไทยและต่างชาติจากโรงเรียน (เพราะต้องไปเรียนภาษาดัชท์ในปีแรก)เรามีเพื่อนน้อยมาก คงเป็นเพราะบุคลิกของตัวเองมั้ง คือจะว่าคุยกับคนอื่นได้ง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก มันขึ้นอยู่กับหลายๆอย่างนะ แบบถ้าคุยแล้วมันไม่คลิ๊ก คุยกันคนละเรื่อง เราก็ไม่คุยต่อแล้ว หรือดูหน้าแล้วไม่เข้าเค้า ก็ไม่เอาอีก อิอิตอนนี้ก็เลยมีเพื่อน(ที่คบกันมาจากโรงเรียน)ที่เป็นคนไทยที่คุยกันจริงจังสองคน (แต่ดันอยู่คนละเมือง)และคุยแบบธรรมดาหนึ่งคน(แบบมีระยะห่างนิ๊ดนึง) มีเพื่อนคนไต้หวันหนึ่งคน เท่านี้แหละ (ส่วนเพื่อนชาวดัชท์ก็พอมีบ้างประปราย) แต่พอเรียนภาษาจบ มันก็ห่างๆกันไป อีกทั้งระยะทางด้วย อยู่กันคนละเมือง ก็เลยไปมาหาสู่กันได้น้อย ได้แต่คุยกันทางโทรศัพท์ ก็ยังดีนะที่ยังได้คุย ไม่งั้นคงตายแน่

หลังจากเรียนจบ ก็ดันท้องอีก แถมแพ้ท้องขนาดหนัก ใครๆเค้าแก็แพ้นิดหน่อย แต่เราชอบเยอะๆมั้ง เลยแพ้มันจนตลอดนั่นแหละ ก็เลยต้องนั่งเฝ้าบ้านเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ (ทั้งๆที่ไม่มีทรัพย์จะให้เฝ้า) แต่ยังดียังมีคอมพิวเตอร์ เอาไว้ให้หาอะไรอ่านแก้เซ็ง แรกๆก็อ่านอย่างเดียว เปิดนั่นเปิดนี่ อ่านอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนคลอดลูกเลยต้องหยุดไปชั่วคราว เพราะเลี้ยงช่วงแรกเหนื่อยจนแทบไม่อยากจะทำอะไรเลย อย่าว่าแต่จะจับคอมเลย ทีวีก็แทบจะไม่ได้ดู มันเหนื่อยเหลือเกิน ก็ต้องเลี้ยงเองคนเดียวนี่

จนเมื่อสองปีก่อนลูกโต เริ่มมีเวลาขึ้นนิดนึง เราจึงได้กลับมาหาเพื่อนเก่าของเราอีกแล้ว มันยังอยู่ดี ก็เจ้าคอมพิวเตอร์และโลกแห่งอินเตอร์เนต กลับมาคราวนี้มันได้แนะนำเราให้รู้จักเพื่อนใหม่ๆอีกหลายคน จุดเริ่มต้นมาจากที่เราได้เข้าไปเวปไซต์คู่สร้างคู่สม ที่นั่นทำให้เราได้รู้จักใครหลายๆคนอย่างเงียบๆ ไปอ่านที่เค้าคุยกัน ก็สนุกดี บางครั้งนึกอยากคุยด้วย แต่ก็ยังไว้ตัวอยู่ อิอิ ไม่ใช่ๆ มันแปลกๆ เพราะไม่เคยคุยแบบนี้มาก่อน แต่ก็มาอดใจไม่ไหว เมื่อมาเจอแก๊งนึงเข้า เค้าคุยกันสนุกดี (จะว่าบ้าบอ กัวเค้ามาถล่มเอา อิอิ) ยังๆๆๆ ยังไม่กระโจนลงไปนะ แต่แค่ติดตามเป็นแฟนคลับก่อน แบบว่าตามอ่านไปเรื่อยๆ นั่งขำอยู่คนเดียว กลัวตัวเองบ้าเหมือนกัน อยากคุยกะเค้าเหมือนกัน แต่ก็รีๆรอๆ เพราะหลายคนก็อายุอ่อนกว่าเรามากอ่ะ กลัวเค้าไม่ให้เข้ากลุ่ม แต่มันก็อดใจไม่ไหวเลยขอเข้าไปร่วมวงกะเค้าด้วยดีกว่า ก็คุยตีซี้เค้าไปเรื่อยๆ จนเค้าให้ร่วมกลุ่มนี่แหละ อิอิ

เพื่อนใหม่จากโลกอินเตอร์เนตของเรา มาจากหลายๆประเทศด้วยกัน เรียกว่าเป็นแม่บ้านต่างแดนกันทั้งนั้น โดยเฉพาะยุโรป เริ่มจาก เจี๊ยบสวีเดนหรือแม่แคสซี่ ป้าญ่าตรางูจากอังกฤษ สาวพิมจากนอรเวย์ ก็มีหนึ่งหนุ่มคือหนุ่มแทนสวีเดน สี่สาวแห่งสวิสเซอร์แลนด์ ก็มีหนูแจงหน้าทะเล้น หนูเกตุอารมณ์ดี สาวตู่แม่น้องครีม และสาวปาง แต่คนหลังนี้กำลังจะย้ายไปอาฟริกาแล้วล่ะ ต่อมาก็ ใหญ่หรือแม่พลัดถิ่น แล้วก็เล็กน้องสาว จากเยอรมัน อ้อ มีจีน่าอีกคน โอ๊ะๆ เกือบลืมซันนี่แม่ลีนุสไปซะแล้ว มาถึงฝรั่งเศสมีหนึ่งสาว คือตุ๊กตาท่ามะขาม อิอิ ใกล้เข้ามาหน่อย ก็ไหมแม่นาตาลีแห่งเบลเยี่ยม มาถึงเมี่ยงคำออสเตรเลีย และที่จะลืมไม่ได้เลยมาทีไรเป็นขำขี้แตกขี้แตน ก็เจ๊ฉายแห่งอาบูดาบีนะสิ มาทีไรขำทุกที อิอิ

ไม่เคยคิดเลยนะว่า มิตรภาพที่ได้จากเพื่อนจากโลกอินเตอร์เนตมันจะผูกพันและห่วงใยกันได้ขนาดนี้ อาจเป็นเพราะว่าเราต่างก็มาอยู่ต่างแดนเหมือนกัน คงมีความรู้สึกคล้ายๆกัน จึงทำให้เข้าใจความรู้สึกของกันได้ดี

จนเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่ 2004 เป็นครั้งแรกที่เราได้มีโอกาสเจอกับเพื่อนจากโลกอินเตอร์เนต เราไปเที่ยวฝรั่งเศสกัน แถบที่เราไปนั้นก็ไม่ไกลจากสวิสเท่าไหร่นัก เลยถือโอกาสเลยไปเยี่ยมสาวๆทีสวิสกัน นัดกันไปเจอที่บ้านปางที่ซังกาแลนท์ คืนแรกเราไปนอนค้างบ้านหนูแจงบนเขา เจ้าของบ้าน่ารักมากๆ ดานีสามีแจงก็น่ารัก คุยสนุก แถมยกห้องนอนให้เรานอนกัน แล้วตัวแจงกับสามีออกไปนอนที่ห้องรับแขก ต้องขอบคุณมากๆเลยจ้ะ จากนั้นวันถัดไปเราก็ไปบ้านปางกัน เกตุกับตู่ก็หอบลูกมาเจอกับเราที่บ้านปางด้วย เราค้างที่บ้านปางสองคืน ส่วนตู่กับเกตุค้าหนึ่งคืน เป็นช่วงเวลาที่สนุกมากๆ น้องๆน่ารักกันทุกคนเลย วันสุดท้ายที่เราต้องเดินทางกลับ ปางยืนส่งโบกมืออยู่หน้าบ้าน เราใจหายมากเลย มันรู้สึกเหงาๆ บอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอกันอีก แต่ยังไงก็ยังหวังว่าเราคงมีโอกาสได้เจอกันอีกนะ










มาปลายเดือนพฤศจิกายนปี 2004 ไปเยี่ยมแม่พลัดถิ่นที่เยอรมัน เราดีใจมากๆเลยที่ใหญ่เชิญเรากับครอบครัว เราค้างที่นั่นสองคืน ครอบครัวน่ารักมาก มีปู่กับย่าอยู่ด้วย คอยช่วยดูแลหลาน มณฑิกากับมนตรีก็น่ารัก หากมีโอกาสเราจะกลับไปเยี่ยมอีกนะจ้ะ และหวังว่า บ้านเราคงได้มีโอกาสต้อนรับใหญ่กับครอบครัวบ้างนะจ้ะ




ต้องขอบคุณเจี๊ยบสวีเดนหรือแม่แคสซี่แห่งบ้านแม่แคสซี่ที่น่ารักมากๆที่ส่งเทียบเชิญเรามาเข้าแก๊งด้วย ทำให้เรามีที่พบปะพูดคุยปรับทุกข์กัน หากมีโอกาสเราจะตามไปดูเอ๊ยไปเยี่ยมเธอถึงสวีเดนให้ได้จ้ะ เพื่อนๆน้องๆคนอื่นๆด้วยนะจ้ะ เราจะตามไปรังควานเอ๊ยเยี่ยมท่านถึงบ้าน และเช่นกัน บ้านเราก้ยินดีต้อนรับเพื่อนทุกๆคนนะจ้ะ หากมีโอกาสผ่านมาทางนี้ อย่าลืมแวะมาเคาะประตูเรียกนะจ้ะ

6 comments:

Anonymous said...

(ก๊ากกกกกกก)พี่เจี๊ยบ เล่าอะไรเนี่ย เอิ๊กก เขาเขินนะตัวอิอิ พี่เขียนเหมือนทำบันทึกปากคำเลยนะเนี่ย เป็นธรรมชาติดี เหมือนนั่งคุยอยู่กับพี่ นะพี่นะ

ขอบคุณค่ะ ^_^

พี่จะมาเมื่อไหร่อะ จะได้เตรียมเตียงน้ำแบบแจงอ่ะ อิอิ
แต่พี่อะนอนห้องรับแขก ข้อยนอนห้องข้อยเหมือนเดิม ก๊ากกกกก พูดเล่นนะคะ
มาเมื่อไหร่ก็ยินดีต้อนรับนะพี่

ขอให้พี่เขียนเรื่องสนุกๆ ให้เราอ่านอีกต่อไป ก๊ากกกกก (ขำที่กลัวเราไม่ให้เข้ากลุ่มอ่ะ ก๊ากกกกก)

แม่แคสซี่

Jeab said...

ก๊ากกกก แม่แคสซี่ ข้อยเขียนไม่เป็นหรอก ก็เล่าๆไปงั้นแหละ ซ้อมๆไว้ก่อน อิอิ เผื่อฝีมือดีขึ้นจะได้เอาไว้เขียนเรื่องขาย หาเงินใช้ยามแก่ ก๊ากกก ฝันไปป่าวเนี่ย

แล้วข้อยจะตามไปถล่มบ้านเจ้าแน่ๆ คอยดู

Anonymous said...

กรี๊ดดดดดด กัว พี่จะมาเมื่อไหร่บอกล่วงหน้าสักเดือนนะ จะเตรียมซ้อมรบ ก๊ากกกก

Anonymous said...

อ่านแค่บทขึ้นต้นก็แสนซึ้งแล้วเนี่ย...พี่เจี๊ยบแจ๋วมากๆเลยเพ่...อย่างนี้ไปเขียนบทละครขายได้เลยนะเนี่ย...อัพเดทดีขึ้นเยอะเลยจ้ะ จะตามมาอ่านเรื่อยๆนะ...XXXX (คิสส์นะไม่ใช่เอ๊กซส์)เจ๊ญ่าจ้า

Jeab said...

อิอิ เขินจัง เจ๊เล่นชมแบบนี้ เอาเป็นว่าถ้าข้อยเขียนจริงๆ เจ๊ต้องซื้อก่อนเพื่อนเลยนะ 5555555

Anonymous said...

พี่เจี๊ยบ...ยอดเยี่ยมมากเลยจ้ะ...อ่านแล้วมันส์ในอารมณ์มากๆ จะเข้ามาตามอ่านเรื่อยๆนะจ๊ะ...ญ.ญ่าตรางู